ทริปสัญญาสั่งลาหน้าฝน…บนดอยบ่อ

เรื่องราวออฟโรดในช่วงฤดูกาลยามหน้าร้อนในช่วงนี้หลายๆ ท่านคงจอดรถออฟโรดคันงามไว้ที่บ้านรอช่วงฤดูฝนกลับมาอีกครั้ง หลายๆ แห่งสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับขาป่าเริ่มปิดตัว เส้นทางครั้งอดีตที่ต้องลากวินช์กันเลือดตาแทบกระเด็น ถึงคราปรับผิวถนนทำการลาดยาง ทิ้งอดีตอันแสนหฤโหดเอาไว้เบื้องหลัง รับการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่ไฉไลมากกว่าเดิม รองรับรถได้ทุกประเภท  

ขณะที่บางแห่งก็เริ่มมีกฎข้อบังคับ ขนาดของยางในการเข้าพื้นที่ หรือไม่ก็ห้ามเข้าไปเลยก็มี ประกอบกับกฎระเบียบเกี่ยวกับการปรับแต่งรถที่ออกมาใหม่ทำให้หลายๆ ท่านคงรู้สึกเซ็งๆไปตามๆ กัน  ครั้งนี้ผู้เขียนจึงเสาะหาเส้นทางออฟโรดที่เหมาะสำหรับสายฮาร์ดคอร์ กับบรรยากาศช่วยดับร้อนในช่วงเดือนเมษา เส้นทางที่ขึ้นชื่อได้ว่าโหดที่สุดของเชียงราย ที่นั่นก็คือ ดอยบ่อ นั่นเอง

กิจกรรมครั้งนี้ได้รับการชักชวนจากทาง Abb offroad Freedomclub เป็นผู้จัดกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเรามาสั่งลาหน้าฝนกันโดยมีทางชมรมต่างๆ เข้าร่วมกับกิจกรรมมากมาย ประกอบไปด้วย ชมรม 4×4 Chiangrai Adventure Club, อู่เอก 4×4 ออฟโรดเชียงใหม่, สามสหาย 4×4 , คนป่า 4×4 อุตรดิตถ์, ฝางออฟโรด, แก่งเสือเต้นออฟโรด, พะเยาออฟโรด, ยอดดอยออฟโรดเชียงใหม่, Tripper 4×4 Chiangmai , ไก่ป่า 4×4 เชียงใหม่ , ดอยหล่อ4×4ออฟโรดเชียงใหม่,  เอ๋ สวนส้ม,  และที่มาไกลที่สุดคือ ทีมงานบอยศรีสัมพันธ์ นำทีมมาโดย ดนัย เมฆศิลป์ อดีตแชมป์ 10 เซียนประจัญบาน 2013 ในรุ่นเที่ยวป่า Open  จำนวนรถร่วมกิจกรรมในครั้งถึง 57 คัน แต่ก็ใช่ว่า ทั้ง 57 คันนี้จะเดินทางเข้าเส้นทางออฟโรดทั้งหมดนะครับ ทางผู้จัดแบ่งแยกออกสาย A และสาย B ตามสภาพของเส้นทางและรถ

การนัดหมายจึงเริ่มขึ้น โดยทางเจ้าภาพเชียงราย ได้นัดหมายกลุ่มสมาชิกออฟโรด ที่หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ยาว (ดอยบ่อ) ซึ่งทางเจ้าภาพได้เตรียมงานเลี้ยงเพื่อต้อนรับพี่ๆ เพื่อนๆ ต่างจังหวัดก่อนที่พรุ่งนี้จะเจอสภาพเส้นทางที่ขึ้นชื่อว่าไม่ธรรมดาสำหรับบรรยากาศ หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ยาวถือว่าสวยงามมากมองเห็นตัวเมืองเชียงรายทั้งเมือง และไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงรายมากนัก เพียงแค่ 45 นาที จากตัวเมืองเชียงรายเราก็ถึงยอดดอยบ่อ ซึ่งในช่วงเดินทางไปนี้ เราเลือกเส้นทางง่ายๆ เป็นเส้นทางหลักในการเดินทางวันนี้ เพื่อสามารถกำหนดเวลาให้ทันกับการทำกิจกรรมและเจอะเจอเพื่อนฝูง ค่ำคืนนั้นเมื่อเพื่อนฝูงมากันครบทีม ก็เป็นเรื่องปกติที่จะได้ร่ำสุราน้ำใจ พูดคุยตามประสาคนคอเดียวกัน สำหรับผู้เขียนเองดื่มเบาๆไว้ก่อน เพราะพรุ่งนี้ยังมีภารกิจกับเส้นทาง

เวลาตี 5 กว่าๆ สายฝนโปรยปรายปลุกเราให้ตื่น และสุดท้ายก็เทลงมาอย่างหนัก เต็นท์นอนหลายท่านต้องย้ายกันอย่างชุลมุน ฝนตกลงมาอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุด เหมือนกับว่าจะต้อนรับพวกเรากับเส้นทางที่ชุ่มไปด้วยฝน เกือบจะ8โมงเช้า ฝนเริ่มหยุดตก สมาชิกเริ่มเก็บของเพื่อเข้าสู่เส้นทาง และเริ่มแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 สายโดยมีหลายท่านหนีไปสาย B เพราะจะได้มีเวลาไปเที่ยวแม่สายกันต่อ ส่วนสาย A เตรียมไว้สำหรับสายฮาร์ดคอร์ เราลงไปถ่ายภาพหมู่ก่อนที่จะแยกย้ายกันตามเส้นทางที่วางไว้ เส้นทางในช่วงแรกเราวิ่งผ่านเนินรับแขกไปอย่างสบายๆ เพราะผิวดินโดนน้ำฝนเมื่อเช้ามืดไม่ได้ลื่นอย่างที่เราคิดไว้ แต่ใช่ว่าจะไม่เกิดอะไรสักพักได้รับวิทยุสื่อสารจากพงไพร่ว่า Toyota Hilux Hero คันใหม่ขาไก่กระปุกพ่วงมาลัย หักเสียคาเนินต้องประคองรถขึ้นมาแล้วทำการซ่อมงานนี้มองหาหาช่างกันทีเดียว

โชคดีที่ “อ้ายอ้วนสะเมิง” ตามมาเจอพอดี งานนี้เราได้ช่างเชื่อมฝีมือนักแข่งมาจัดการซ่อมแซมช่วยเหลือกันไปอย่างไม่มีปัญหา พร้อมเดินทางกันต่อ ซึ่งจากนี้ไปเส้นทางจะเริ่มลงเขาอย่างลาดชันและร่องลึก งานนี้บอกได้เลยว่าเครื่องยนต์ไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่จะเป็นการใช้ทักษะฝีมือในการควบคุมรถและคนบอกไลน์เส้นทางต้องแม่นยำ เรามาถึงเนิน V1 กลุ่มแรกนำโดย บอย ศรีสัมพันธ์ และ เอ๋ สวนส้มบางมด ค่อยลงมาอย่างเนียนๆ เพราะถ้าพลาดอาจจะตะแคงข้างง่ายๆ ตรงจุดนี้รถที่คานกว้างๆ ค่อนข้างจะได้เปรียบเพราะค่อมร่องลงไปกันอย่างสบายๆแต่จะไปลำบากรถเล็กๆ คาริเบี้ยน หรือรถที่คานไม่ค่อยกว้างเพราะโอกาสพลิกคว่ำมีสูงกว่า  ว่าไม่ทันจะขาดคำ รถลุงใจ ประเดิมคันแรกคว่ำตรงเนินร่องV1 ลุงใจบอกว่างานนี้ขนมๆ ดูท่าทางแกจะไม่ยอมฟังนะ เพราะขนาดบอกไว้ให้ไปอีกทางปีนไลน์ซ้ายลุงแกจะลงร่องอย่างเดียวจริงๆ

ตามมาด้วยรถจี๊บ M38 ของ เสี่ยโล ขาประจำจอมพลิกครั้งนี้ค่อยๆย่องเบาลงมาแต่ด้วยรถที่สั้นกว่าคันอื่นหน้าทิ่มลงไปในร่องเผลอแปบเดียวตามลุงใจไปอีกคัน เล่นเอาหน้าซีดไปเป็นไก่ต้มเลย ออกจากรถมาได้บอกว่าแค่นี้จิ๊บๆ ดีนะคนไม่เป็นไรดีละ หลายคนแซวว่า ยังเหลือร่องV2และV3ให้ได้พลิกอีกเยอะ เจ้าถิ่นบอกว่าเราเข้ามาได้แค่ประมาณ 5 กิโลเมตร ระยะทั้งหมดประมาณ 21 กิโลเมตร ตรงเนินร่องV1 ขบวนรถค่อยๆ ไหลลงกันมาอย่างช้าๆ หลายคันที่นำไปก่อนต่างไปพักทานมื้อเที่ยงก่อนถึงร่องV2 ตรงนี้ถือว่าเด็ดเลยครับ เพราะลักษณะร่องลึกยาวๆ ผู้เขียนเองยังคิดนะครับ ว่านี่เป็นขาลง ถ้าขาขึ้นจะโหดขนาดไหน สงสัยต้องมีกินข้าวลิงเป็นแน่ไม่งั้นก็ต้องมีการนอนค้างคืนกลางป่ากันต่อ เพราะด้วยอุปสรรคร่องลึกขึ้นเนินชันด้วยแล้ว มันไม่ง่ายเลยกว่าที่จะผ่านไปได้ พวกเราพักกินข้าวเรียบร้อยแล้วผมนั่งไปกับ ส.นอ ตามเอ๋สวนส้ม ไปเนินที่ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา เพราะว่าร่องมันบังคับกับต้นไม้หลบไม่ได้ต้องค่อมร่องไปอย่างระมัดระวัง เผลอไปดูไลน์ให้คันอื่นแป๊บเดียว รถคาริเบี้ยนคันแดงของ ส.นอ หัวปักเกือบพลิกคว่ำงานต้องวินช์ขึ้นกันเลยที่เดียว ตรงจุดร่อง V2 รถหลายคันตกลงในร่องนี้ตามๆ กันไป  จุดไฮไลต์ตรงนี้รถหลายคันต้องเอาด้านข้างถูกับผนังคันดินเลยทีเดียว เพราะจุดนี้เนินและร่องลึกค่อนข้างจะยาว และแล้วรถลุงใจก็พลิกตรงร่อง V2 อีกรอบเสียเวลาไปเยอะซึ่งกว่าจะผ่านร่อง V2 รถคันสุดท้ายปาไปเกือบ 5 โมงเย็น

ลงมาสักพักผู้เขียนเองยังได้ยินเสียงรถชุดข้างหน้าอยู่ไม่ไกล คาดว่าน่าจะถึงร่องร่องV 3 พอผมไปเห็นร่อง V3 เท่านั้นละครับโอ้ว..มันช่างชันมากๆ และร่องลึกขนาด 1.5เมตร ร่องยาวๆ ด้านขวาเป็นเหวลึก..และมีจุดคอขอดคันดินมันสไลด์ งานนี้ต้องมีการวินช์ตงหน้า-หลังกันทีเดียว เพราะถ้าพลาดมันลงไปลึกพอสมควร จุดนี้รถพงไพร่ เกือบพลิก ต้องช่วยกันโหนท้ายรถเพื่อไม่ให้พลิกคว่ำ หลายคนต้องลงมาดูไลน์กันเองเพราะเริ่มจะมืดค่ำแล้ว รถหลายคันเริ่มผ่านจุดคอขอดตรงจุดนี้ เห็นที่จะเป็นจุดที่รถเล็กอย่างคาริเบี้ยนจะได้เปรียบเท่าที่เห็นขับผ่านสบายๆ แต่ถ้ารถใหญ่คานกว้างๆ ต้องระมัดระวังกันอย่างมากต้องมาช่วยกันดูไลน์เพื่อไม่ให้ผิดพลาด

รถแต่ละคันขับผ่านจุดอันตรายที่สุดตรงร่องV3 มาแล้วเราก็เริ่มเข้าสู่พื้นที่ราบและหมู่บ้านกว่าจะถึงตรงปากทางเข้าที่เราจะขึ้นไปดอยบ่อ เกือบ 1 ทุ่ม เพื่อนๆ สายเชียงใหม่ขอตัวกลับก่อน และยังมีตกค้างที่อยากจะไปนั่งกินกันกับบรรยากาศแสงสีเสียงในเมืองก็มี ส่วนตัวผู้เขียนเองขอตัวเดินทางก่อนเช่นกัน เพราะทั้งขึ้นรถลงเดินถ่ายภาพในแต่ละมุมแต่ละช็อต เล่นเอาเมื่อยแข้งเมื่อยขาไปหมด

สรุป ทริปนี้ผมว่าเส้นทางระยะไม่ไกล และใกล้ตัวเมืองเชียงรายเส้นทางโหดเอาเรื่องระดับ4ดาวขนาดเป็นในช่วงปลายฝนต้นหนาว แต่ถ้าเป็นในช่วงฤดูฝน ผมว่าเอาไป 5 ดาวเลยทีเดียว นี่ขนาดเป็นช่วงขาลงนะครับ ถ้าเป็นขาขึ้นรับประกันว่าสุดๆกั นเลย สนใจในเรื่องเส้นทางลองติดต่อไปที่ Abb (เอบีบี) 088-2585254 รับประกันความมันส์ครับ…