“ตลุย ช่องแคบมะละกา สู่สุสานหอย หินล้านปี ที่หนองบัวลำภู”

..ปลายฝน ต้นหนาวปีนี้ผมมีเรื่องราวดีๆ สนุกๆ มาเล่าเรื่อง เรียงความให้อ่านกันอีกครั้งครับ ตามคำเชิญของ เฮียอ๊อด จากชมรมกระทิงดง 4WD อุดรธานี ล่วงหน้าเป็นเดือน ระหว่างรอช่วงจังหวะที่เหมาะสมกับภารกิจของแต่ละคน ก็ประจวบเหมาะกับหย่อมความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นจากจีนแผ่นดินใหญ่ ก็ล่องลอยมายังไทยแลนด์เรียบร้อย ส่งความฉ่ำชุ่ม ชื้นแฉะ มายังอีสานแบบเต็มๆหลายวัน หนักหน่อยก็เป็นทางภาคเหนือ ที่มีน้ำป่าไหลหลากสร้างความเสียหายไปไม่น้อย

ทริปนี้ผมใช้เวลาเดินทางจากจังหวัดกาฬสินธุ์กว่า 200 กิโลเมตร สู่ จ.หนองบัวลำภู โดยมีเพื่อนๆ พี่ๆ ลุงเปี๊ยก พี่อ๊อด พี่เทวิน ลุงแหลม  ลุงดิสส์ อ้ายต๊ะ อ้ายอึ่ง เสี่ยหนึ่ง ผู้กองหำโต้  จาก ชมรมกระทิงดง 4WD อุดรธานี , ชมรมลำโขง ออฟโรด , ชมรมคนท่องป่า 4×4 สกลนคร, ชมรมกาฬสินธุ์ออฟโรด และชมรมลาวออฟโรด จาก สปป.ลาว  รอต้อนรับอย่างอบอุ่นเช่นเคยครับ  จุดหมายนัดแนะกันเพื่อพิชิตเส้นทางช่องแคบมะละกา แห่งเมืองหนองบัวลำภูนี้ให้ได้ในวันเดียว เพราะเส้นทางนี้เคยมีกลุ่มออฟโรดในอดีตเคยสัมผัสมาแล้ว แต่ไม่จบ     ทริป เนื่องจากความพร้อมของรถและสภาพดิบเถื่อนของเส้นทาง..น่าลองครับ

จากคำบอกเล่าสภาพเส้นทางโดยรวมที่เหมือนกับอีสานทั่วไป ดินโคลนไม่ลึกแต่ลื่น ร่องน้ำ โขดหิน  มีให้นักขับรถออฟโรด แสดงทักษะกันได้อย่างเต็มที่ อย่างไม่ประมาท..

จากเมืองอุดรธานี  ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 210  สู่ จ.หนองบัวลำภู ประมาณ 30 ก.ม. จะสังเกตเห็น ทางเข้า อ่างเก็บน้ำชลประทาน จ.หนองบัวลำภู อยู่ขวามือ เป็น สวนสาธารณะภูพานทอง (Phupan Thong Public Park) จุดสังเกต นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของทริปนี้ เราใช้เวลาทักทาย วางแผน ตรวจความพร้อมรถ ถ่ายภาพร่วมกัน ครู่เดียว ก่อนเดินทางเลาะริมอ่างฯตามเส้นทางเลี้ยงวัวของชาวบ้าน อิทธิพลของน้ำฝนตลอดอาทิตย์ เส้นทางเจิ่งน้ำ ดินโคลนโผล่ มอส เฟิร์นชุ่มฉ่ำ สดใสมากตลอดเส้นทางก่อนถึงร่องน้ำขาด ที่พลังน้ำซัดเอาท่อซีเมนต์ขนาดเมตรหักขวางคลองอยู่ ต้องงัดทักษะออกมาให้ดี ไม่อย่างนั้นมีหวังพลิกเอาง่ายๆ การทำตามเนวิเกเตอร์ เป็นสิ่งที่ต้องทำมาก ต้องขอบคุณเสี่ยต้อม กระทิงดง 4WD ที่ทำหน้าที่นี้ตลอดทริป  อึดจริงๆ…

ผืนป่าแห่งนี้ เป็นเขตป่าชุมชนที่นับว่าอุดมสมบูรณ์มากพอสมควร เพราะจะเห็นแต่การเลี้ยงสัตว์ของชาวบ้านเท่านั้นที่ใช้บริการป่าผืนนี้ การบุกรุกทำกินลึกเข้าไปในป่าไม่ค่อยเห็น นับเป็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่น่ายกย่อง  เราใช้เวลาเดินทางตามร่องเขา สูงบ้าง ต่ำบ้าง หลบต้นไม้ ก้อนหินเล็กใหญ่ กว่า 2 ชั่วโมง ก็มาถึงสะพานหินที่คอยดักล้อขนาด 35 นิ้วไว้อยู่หมัด ต้องออกกำลังกันอีกครั้ง  และ…รอดทุกคัน!!  ค่อย มุดป่า คล่อมตอ หินลอยเป็นช่วงๆ กว่า 1 ชั่วโมง ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางมาจากบ้านเมื่อเช้า เล่นเอาผมง่วงมาทันที ยังดีที่มี  อ้ายอึ่ง จาก สปป.ลาว ดีกรีผ่านสังเวียน  RFC 2014 ที่เวียดนามมาหมาดๆ นั่งเป็น  Co-Driver ให้

…เราหยุดรถ 4WD ไว้ เพื่อสำรวจร่องทางที่หายไป กลายเป็นอุโมงค์ โพรงหญ้า และร่องตัว V ต้องขนาดเท่าร่างแมงหวี่จะผ่านได้  นี่หรือเป็นที่มาของ “ช่องแคบมะละกา”  คันแรก เฮียอ๊อด กระทิงดง มือเก๋าแห่งเมืองอุดรฯ ขอลองก่อน มิวายต้องลงแส้ ม้าขาวให้ทะยาน ครั้งแล้ว ครั้งเล่า เหาะกี่ครั้งก็ไม่ไหว ทั้งโหน ทั้งลากทั้งเบียด ต้องวินช์ช่วย จนผ่านอุปสรรคไปได้ ท่ากลางเสียงภาวนา และให้กำลังใจจากเพื่อนๆว่า “คว่ำๆๆๆๆ”

ส่วนเจ้ามังกรแดง จากอู่ดิส เซอร์วิส  สกลนคร ยังไม่ทิ้งลายมือหนึ่งของสกลนคร  ลีลายังดีทั้งๆ ที่ไปหลอกสาวลาว มาเป็นคู่ชีวิตสำเร็จทั้งคืน (อิอิ…) แต่ช่วงล่างกว้างๆ ของซาฟารี บนกระดองซูซูกิ มันสร้างความลำบากให้เขาพอสมควรกับช่องแคบๆ แบบนี้ และที่เด็ดกว่านั้นเราสามารถหลอกล่อเอานักขับออฟโรดมือดีของ สปป.ลาว คือ อ้ายต๊ะ  และอ้ายอึ่ง มาเป็นเด็กลากวินซ์ จนจบทริปแบบสะใจไปเลย เพราะเห็นว่าไป RFC มาแล้ว 2 ครั้ง ใช้จนคุ้ม แต่ทริปหน้า  ไปนครเวียงจันทร์  ก็ตัวใครตัวมันนะครับ พี่อ๊อด

เนินสุดท้ายของช่องแคบมีต้นไม้ขนาดยักษ์ เบียดซ้าย และก้อนหินขนาด 2 ตัน ดักล้อไว้ งานนี้ไม่ธรรมดาที่จะใช้ทักษะพื้นๆ ขับผ่านไปได้ ต้องโยกตั้งลำ และเลี้ยงรอบเครื่องให้ดี ไม่งั้นก็หล่นแผละมาก้อนหินเหมือนเดิม ตัวเลือกสุดท้ายก็คือ วินซ์ เหมือนเดิมหลังจาก  3 เทคออฟ  ต่อไปอีกกว่า 50 เมตร เนินยาว ลื่น ชัน ปลายเนินช่องแคบยังมีก้อนหินขนาดมหึมา มิดหลังคารถคอยเบียดกระจกและหลังคา หากใครตะบี้ตะบันอัดคันเร่งขึ้นไป โดยไม่มองเนวิเกเตอร์  เราผ่านช่องแคบมะละกามาได้ แบบไม่ช้ำกันมาก แต่กระนั้นก็ผ่านออกมาได้แค่ 4 คัน จาก 6 คัน เพราะต้องสังเวยทริปนี้ตั้งแต่ด่านท่อขาด  ทริปนี้ เส้นทางถือว่าใช้ได้ทีเดียวครับ หากจะค้างคืนก่อนเดินทางเข้าป่า สามารถทำได้ที่บริเวณสันเขื่อนชลประทาน แห่งนี้ได้ มีบ้านพักรับรองครับ หรือจะพักที่ในเมืองหนองบัวลำภู ที่ห่างออกไปเพียง 10 ก.ม. ได้

เวลาประมาณ 17.00 น. เราก็ทะลุออกมายังหมู่บ้านห้วยเดื่อ ตำบลโนนทัน อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งจะพบทางเข้าไปยังบริเวณที่พบ ซากฟอสซิลหอยล้านปี เป็น ฟอสซิสหอยทะเล ดึกดำบรรพ์ ยุค “จู ราสสิค” มีอายุราว ๑๔๐ – ๑๕๐ ล้านปี ลักษณะของฟอสซิสเป็นหอยกาบคู่ ที่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์จำนวนมาก มีทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ บางตัวมีน้ำหนักถึงประมาณครึ่งกิโลกรัม เป็นหอยทะเล ชนิดหนึ่ง แสดงว่าบริเวณสุสานหอยนี้เคยเป็นทะเลมาก่อน พบบนหน้าผาของภูเขาสูง ประมาณ 50 เมตร จากการศึกษาทางธรณีวิทยา บริเวณดังกล่าวเป็นกลุ่มหินโคราช หน่วยภูกระดึง ประกอบด้วยหิน ชนวน หินทรายและกวาดปนอยู่ด้วย บริเวณใกล้เคียง ยังพบซากกระดูกจระเข้โบราณ เศษหินจาไม ก้า และแร่ธาตุบางชนิดอีกด้วย

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save