ซื้อรถอย่างไรไม่ให้โดนหลอก

 

ก็อย่างที่รู้ๆกันนะครับว่าผมเอง ผู้เขียนมีอาชีพด้านการซื้อขายรถมือสอง ก็เลยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการดูรถมาหลายๆแบบ เจ็บมาก็เยอะ รถมีปัญหาแต่ดูไม่ออกซื้อมาทั้งอย่างงั้นเลยก็มี รถสวมทะเบียนก็เคยโดนมาแล้ว  ก็เลยอยากจะเอาประสบการณ์พวกนี้มาแบ่งปันกัน สำหรับผู้ที่กำลังอยากได้รถมือสองแล้วกำลังกลัวว่าจะโดนหลอกมั้ย ถ้าลองดูจากที่ผมบอกแล้วผมแน่ใจว่าน่าจะช่วยได้ระดับนึง เพราะจุดที่ใช้ในการดูหรือสังเกตนั้นมีค่อนข้างเยอะ บอกไปทั้งหมดคิดว่านะจะจำกันได้ไม่หมดแน่ และผมเองก็อาจจะเขียนถึงได้ไม่หมด เอาเป็นว่าผมจะพูดถึงจุดสำคัญที่ต้องรู้และต้องดูน่าจะดีกว่า เราก็มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
อย่างแรกเลยที่คนจะซื้อรถมือสองกลัวกันที่สุดก็น่าจะเป็นเรื่องที่ว่ารถเคยชนมามั้ย มีอุบัติเหตุอะไรมาบ้างหรือเปล่า แล้วจะดูยังไงหละว่ารถเคยชนมา เอาหลักการง่ายๆไปเลยก็แล้วกันนะครับ เราจะต้องดูที่คานหน้ารถก่อน แล้วคานหน้ามันอยู่ตรงไหน ก็ตามรูปด้านล่างนะครับ
แล้วทีนี้จะต้องดูอะไรบ้างหละ เอาแบบที่ง่ายที่สุดเลยก็คือดูที่สีของคานหน้าครับว่าเป็นยังไง ถ้าคานหน้ามีสีเงาๆกว่าปกติก็ให้เดาไว้ก่อนว่าอาจเคยมีการพ่นสีมา ยิ่งถ้าเจอแบบที่สีแตกเป็นลายงามาเลยอันนี้ก็บอกได้เลยว่าชนมาแน่นอน ดูจากตัวอย่างในรูปด้านล่างนะครับ
จากรูปด้านบนนะครับ รถทั้งสองคันเป็นรถรุ่นเดียวกัน สีเดียวกัน อายุต่างกัน 1 ปี เห็นความต่างของสีนะ คันนึงจะเงา อีกคันจะด้านๆ คันที่เงาแล้วก็มีสีแตกตรงมุมคือรถที่เคยซ่อมคานหน้ามา ส่วนคันที่สีด้านคือรถที่เดิมๆไม่เคยซ่อมคาน ลักษณะแบบตัวอย่างข้างบนนี่ดูง่าย เพราะตอนที่ซ่อมน่าจะเจออู่ที่ซ่อมแบบหยาบๆไม่ละเอียดมาก แต่ถ้าเจออู่ที่ซ่อมแบบดีขึ้นมาหน่อยอาการแบบสีแตกแบบนี้ก็จะไม่มี แล้วทีนี้จะดูยังไงหละ เอาง่ายๆเลยนะครับ “เล่นเกมส์จับผิด” ก็เหมือนกับเกมส์จับผิดภาพครับ ให้ดูปลายคานฝั่งซ้ายกับขวาเทียบกัน เพราะส่วนใหญ่แล้วถ้ามีการซ่อมแซมหรือพ่นสีมาจะมีจุดให้สังเกตกันได้นิดหน่อย  เอาตามรูปด้านล่างนะครับ เอารถคันสีน้ำเงินก่อน ลองดูเอานะครับว่าต่างกันมั้ย
คำตอบนะครับ ไม่ต่างนะครับสำหรับรถคันนี้ สังเกตุนะครับว่าสีของคนหน้า จะด้านกว่าตัวรถ แล้วตัวคานเองไม่เคยมีการซ่อมแซม ลองมาดูรูปของอีกคันนึงด้านล่างนะครับ
 
คันนี้ในรูปด้านซ้ายมีสีทองแลบออกมาหน่อยนึงตรงปลาย นั่นหละครับจุดที่ใช้สังเกต ลองสังเกตุอีกนิดนะครับว่าสีของคานในรูปด้านซ้ายจะเงากว่ารูปด้านขวานิดหน่อย แปลว่าคานรถด้านหน้าขวาเคยมีการพ่นสีมาครับ
แต่วิธีนี้ใช้กับรถที่เคยซ่อมคานมาแค่ฝั่งเดียวแล้วก็ซ่อมกับอู่ที่ซ่อมยังไม่ละเอียดเท่าไหร่ เพราะอู่ที่เซียนๆเลยจะซ่อมแบบดัดคานกลับมาอย่างเดียว แต่ไม่พ่นสี แล้วถ้าเราดวงดีขนาดเจอรถแบบที่มีการซ่อมคานมาทั้งอันจนเหมือนกันทั้งสองด้าน แล้วก็ซ่อมกับอู่ที่เซียนๆเข้าไปซะด้วย จะให้สังเกตุจากตรงไหนหละ คำตอบนะครับก็ให้ดูว่าตัวคานมีการบิดมั้ย ขอบย่นบ้างหรือเปล่า แบบรูปด้านล่างนะครับ
 
ตรงที่วงสีแดงไว้ลองสังเกตดูนะครับว่าถ้าเทียบกับด้านข้างๆแล้วขอบเหล็กมันบิดลงมาด้านล่างนิดนึง ตรงนี้เป็นจุดที่ใช้สังเกตว่ารถเคยมีการซ่อมคานหน้ามา อาจจะเกิดจากการชนด้านหน้าแล้วคานมีการบิดตัวแล้วซ่อมมาได้ระดับนึง คานหน้ารถเนี่ยถ้ามีการชนมาต่อให้ช่างฝีมือดีขนาดไหนก็แถบจะทำให้กลับมาเหมือนเดิมแบบ 100% ได้ยาก ยกเว้นเปลี่ยนเลยทั้งอัน อ้าว….แล้วถ้าเกิดไปเจอคันที่เปลี่ยนมาทั้งอันหละจะดูยังไง บอกตรงๆเลยนะครับว่าอาศัยดวงล้วนๆครับ
พูดเล่นครับ จริงๆแล้วรถที่เปลี่ยนคานหน้ามาเนี่ยดูง่ายนะ ถ้าเป็นรถที่เปลี่ยนคานมาหัวน๊อตต่างๆจะมีการถอดครับ แล้วตัวคานจะเรียบกว่าปกติ ปลายคานกันปลายแก้มหน้าจะประกบกันไม่สนิท ตามรูปด้านล่างครับ
 
จากรูปนะครับ คานเงาแว๊บ เรียบสนิท น๊อตทุกตัวมีการถอดแล้วพ่นสีใหม่ทับ ( ปกติสีของน๊อตกับสีของคานจะคนละสีกัน ) แต่นี่สีเดียวกันแป๊ะ สติ๊กเกอร์ต่างๆที่ต้องมีติดไว้ไม่มีเลยซักอัน ตัวเลขที่ต้องมีปั๊มไว้ก็ไม่มี นี่หละครับรถเปลี่ยนคานหน้ามา ถ้าไม่โดนมาหนักจริงๆคงไม่เปลี่ยน ( แต่ถ้าซ่อมศูนย์ก็ไม่แน่นะครับ เพราะบางทีนิดหน่อยศูนย์ก็เปลี่ยนให้เลย ทางทีดีลองถามคนที่เค้าขายดูก็ได้ครับว่าเป็นยังไง ถ้าเค้ายอมบอกความจริงกับเราอ่ะนะ ) ทีนี้ลองดูรูปด้านบนอีกทีนะครับ จะเอามาเปรียบเทียบกับรถรุ่นเดียวกันที่เดิมๆ ไม่มีการซ่อมแซมมานะ
ต่างกันชัดเจนเลย สติกเกอร์ต่างๆที่ต้องมีก็ไม่มี ( ในวงกลมสีส้มที่วงไว้เปรียบเทียบกันนะครับ โทษทีนะครับที่ถ่ายมาคนละมุม คือมันไม่มีรูปตัวอย่างอ่ะ ลองไปหาใน File เก่าๆแล้วได้มาเท่าเนี้ย )
 
อีกตัวอย่างนึงนะครับ รถรุ่นเดียวกัน ปีเดียวกัน คันด้านบนเป็นรถเดิม คันด้านล่างเป็นรถที่เคยซ่อมคานหน้ามา ลองสังเกตตามลูกศรสีส้มนะครับ รถคันที่มีการซ่อมคานมาสติกเกอร์ต่างๆหายหมด แล้วคานหน้าก็จะเงากว่า

หลายคนถามว่าแล้วเราจะดูว่ารถชนหรือไม่ชนจะใช้วิธีดูที่กระจกหน้าได้มั้ย ตอบเลยนะครับว่าไม่ได้ เอาแบบตามธรรมชาติของคนใช้รถเลยนะ เวลาเราเจอหินดีดใส่กระจกแล้วกระจกร้าวหรือแตก แน่นอนเราก็ต้องเปลี่ยน เพราะฉะนั้นเราจะเอาหลักที่ว่ารถเปลี่ยนกระจกหน้ามาแล้วรถต้องชนหนักมาอันนี้ผิดนะครับ  เราต้องดูส่วนประกอบอื่นๆด้วย เช่นถ้ารถพ่นสีห้องเครื่องมา คานหน้าเยินมาเลย แล้วมีการเปลี่ยนกระจกมาด้วยอันนี้ก็อาจจะเดาได้ว่ารถเคยชนหมักมาถึงกับกระจกแตกกันเลย แต่ถ้าห้องเครื่องเดิมคานหน้าเดิม แต่มีการเปลี่ยนกระจก จะไปเหมาว่ารถชนหนักมาอันนี้ผิดเลยนะครับ

อีกอย่างนึงที่อยากแนะนำเลยคือก่อนไปดูรถ อยากให้ทำการบ้านคือลองหารูปรถรุ่นที่เราสนใจมาดูเป็นตัวอย่างซักหลายๆคันหน่อย แล้วลองสังเกตุว่ามีอะไรให้เป็นจุดสังเกตุบ้างเช่นสติกเกอร์ ตัวเลขต่างๆที่ปั๊มไว้บนคานอะไรประมาณนี้ เพราะรถแต่ละรุ่นจะมีจุดสังเกตุต่างๆไม่เหมือนกันตรงนี้อาจจะต้องใช้ความชำนาญในการดูบ้าง ถ้าเราทำการบ้านไปก่อนก็น่าจะดี สำหรับตอนนี้อาจจะต้องขอเขียนไว้เท่านี้ก่อน ส่วนจุดสังเกตอื่นๆเช่นการดูฝากระโปรงหน้า-หลัง ขอบประตู อะไรพวกเนี้ย โอกาสหน้าจะมาเขียนต่อนะครับ

ขอขอบคุณ ธนกฤต
www.ksbusedcar.com

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save