ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 Land Rover ได้บอกว่าจะไม่กลับมาผลิตรุ่น Defender แบบดั้งเดิมอีกต่อไป แต่แล้วมันก็กลับมาอีกครั้งในโมเดล Limited-Edition
Land Rover Defender Works V8 ถูกผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปี ของ Land Rover และเป็นการรำลึกต่อโมเดลต้นแบบ โดยภายใต้ฝากระโปรงของเจ้า Defender รุ่นพิเศษนี้ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตร ทำพละกำลังสูงสูด 400 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุด 515 นิวตัน-เมตร จัดว่าเป็นขุมพลังที่ทรงพลังที่สุดและเร็วที่สุดเท่าที่เคยจุติในร่าง Defender เลยทีเดียว ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด จาก ZF Friedrichshafen พร้อมโหมดขับขี่แบบ Sport
การรวมของเครื่องยนต์ V8 อันทรงพลัง และเกียร์เทพ สามารถทำ 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 5.6 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 171 กม./ชม. ภายในระยะเวลาอันสั้น นอกจากนี้ตัวรถมากับล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว หุ้มด้วยยาง All-Terrain ช่วงล่างยังได้อัพเกรดเบรคและระบบกันสะเทือนให้ดีขึ้น รวมถึงเหล็กกันโคลง ทำให้การควบคุมตัวรถมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ภายนอกมีสีสันให้เลือกถึง 8 สี ตัดด้วยสีดำบริเวณหลังคา โป่งล้อ ตะแกรงหน้าและกันชน ส่วนบริเวณมือจับประตู ฝาเปิดถังน้ำมัน และตัวอักษร ‘DEFENDER’ หน้าฝากระโปรง ทำมาจากวัสดุอลูมิเนียมคุณภาพดี ตกแต่งด้วยไฟส่องสว่างด้านหน้าแบบ bi-LED
ภายในห้องโดยสารตกแต่งโทนสีครีม/ดำ ด้วยขนสัตว์ Windsor บริเวณแดชบอร์ด แผงประตู ฝ้าเพดาน คู่กับเบาะทรงสปร์อตจาก Recaro และยังได้ติดตั้งระบบความบันเทิงแบบคลาสสิคไว้ภายใน รวมถึงระบบนำทางด้วยดาวเทียม
Land Rover Defender Works V8 โมเดลลิมิเต็ดอิดิชั่น ผลิตออกมาเพียง 150 คันเท่านั้น ราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 150,000 ปอนด์ หรือประมาณ 6,600,000 บาท
เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.