ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์-เบอร์ 1 อาเซียน”
ชื่อของดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ได้รับการกล่าวถึงค่อนข้างมากมายในห้วงเวลาที่ผ่านมา การได้รับการยอมรับจากตลาดหลักทรัพย์ในการรับรองบริษัทกรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด สู่ความเป็น “มหาชน” เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ยิ่งทำให้ความหมายของ “กรังด์ปรีซ์” และ “ดร.ปราจิน” เป็นความมั่นคงอย่างยิ่งในฐานะบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์มาเป็นเวลากว่า 40 ปี
ในวันนี้บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ก้าวสู่ความเป็นงานแสดงรถยนต์หมายเลขหนึ่งของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ที่ได้รับการรับรองจาก Organisation Internationale des Constructeurs d’Automobiles (OICA) บรรจุเข้าไปในปฏิทินงานมอเตอร์โชว์โลก
บรรดาผู้ชื่นชอบรถยนต์คงอยากรู้ว่าดร.ปราจิน จะปลุกตลาดยานยนต์เมืองไทยอย่างไร? ในบรรยากาศของเศรษฐกิจปี 2561 คิดว่างานบางกอก มอเตอร์โชว์ จะมีส่วนกระตุ้นตลาดอย่างไร?
“โดยปกติธรรมชาติของตลาดรถยนต์เมืองไทย ช่วง 2 เดือนแรกของปีเหมือนเป็นการอุ่นเครื่องเสียมากกว่า” ดร. ปราจิน วิเคราะห์จากประสบการณ์ในการจัดงานมายาวนานเกือบ 4 ทศวรรษ “แต่ละบริษัทเหมือนคุมเชิงกัน ปีนี้จะสังเกตเห็นการขยับตัวจากรถยุโรปมากกว่า โดยเฉพาะค่ายรถใหญ่อย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งจัดหนักจัดเต็มกับงานของเรามาทุกปี 2 ค่ายนี้ทั้งงานโชว์งานสร้างบูธอลังการแบบไม่ยอมแพ้กัน ผู้เข้าชมงานจะได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างแน่นอน”
“ขณะที่ค่ายรถญี่ปุ่น ปีนี้เหมือนยังสงวนท่าทีจะมีแค่ ซูซูกิ สวิฟต์ ใหม่ ที่ออกตัวก่อนใคร รวมถึงฟอร์ด แร็พเตอร์ รถปิกอัพหรูๆ ที่เห็นแล้วอยากเป็นเจ้าของ ขณะที่เจ้าตลาดรถกระบะอัพอย่างอีซูซุ ยังคงเน้นคอนเซ็ปต์เดิม เอ็กซีรี่ส์ สีแดงจะจอดโชว์ในบูธอย่างแน่นอน โดยเฉพาะแคมเปญยังไงก็โดนใจคนซื้อแน่นอน”
ฝั่งรถยนต์น่าสนใจแล้ว ฝั่งรถจักรยานยนต์เป็นอย่างไร? ดร. ปราจิน “รถจักรยานยนต์ปีนี้จัดเต็มยิ่งกว่าทุกปี โดยเฉพาะฮอนด้า จะมีการนำรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และไฮบริด รวมถึงรถรุ่นใหม่ๆ มาเต็มพื้นที่แน่นอน ที่พิเศษจะมีการจำลองรูปแบบโชว์รูมแบบใหม่มานำเสนอ เรียกว่าจัดเต็มพื้นที่เลยทีเดียว”
“ขณะที่ยามาฮ่า เพิ่งเปลี่ยนแม่ทัพใหญ่น่าสนใจเชียวล่ะ เพราะปีนี้มีรถรุ่นใหม่ๆ มาเปิดตัวทุกเดือน ยังไงก็ต้องเรียกคนเข้าบูธแบบไม่ยอมกัน ผมอยากบอกว่าพื้นที่รถจักรยานยนต์ปีนี้ น่าจะคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งฮอนด้า และยามาฮ่า ประกาศแล้วจะมีรถใหม่ๆ เปิดตัวให้ได้ชมกัน รวมถึงรถบิ๊กไบค์ใหม่ ที่เป็นค่ายรถนำเข้า ทุกปีจัดกันแบบมาเต็ม คนที่เป็นแฟนรถประเภทนี้ยังไงก็ไม่น่าผิดหวัง ยังไงก็อย่าเดินผ่านนะครับ แวะไปดูกันสักนิดไม่ผิดหวังหรอกครับ” ดร.ปราจิน ตอบอย่างน่าสนใจ
อยากรู้จำนวนรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่เข้าร่วมงานมีจำนวนเท่าไร? ดร.ปราจิน ตอบทันทีเลยว่า “บริษัทรถยนต์มี 30 บริษัท รถจักรยานยนต์มี 15 บริษัท ปีนี้มีค่ายรถยนต์ใหม่เข้าร่วมงานคือ บีวายดี และฟอมม์ ซึ่งจำหน่ายรถไฟฟ้ามาเปิดตัวภายในงานนี้ด้วย ซึ่งจะมีพื้นที่การจัดแสดงรถไฟฟ้า และพื้นที่สำหรับสมาคมผู้ประกอบชิ้นส่วนจากประเทศจีนเข้าร่วมงานเป็นปีแรก”
บริษัทรถยนต์รถจักรยานยนต์พร้อมแล้ว ผู้เข้าชมงานล่ะ? ดร.ปราจิน คาดการณ์ไว้ที่เท่าไร? “ปีที่ผ่านมามีผู้เข้าชมงานจำนวนกว่า 1.6 ล้านคน ปีนี้ก็เชื่อว่าไม่น่าจะน้อยกว่า เพราะแนวโน้มการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าชมงานงานได้เห็นนวัตกรรมยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ผู้ผลิตต่างก็ต้องการจะชี้ให้เห็นถึงการเติบโตของแต่ละบริษัท รวมถึงสามารถเดินชมกิจกรรมต่างๆ ที่จัดแสดงไว้อีกด้วย”
แต่ถ้าจะให้คาดการณ์เรื่องยอดจองรถยนต์ คำตอบจากดร.ปราจิน แสดงความเห็นว่า “ถ้าสังเกตให้ดีระยะหลังแคมเปญมอเตอร์โชว์ ไม่ได้เจาะจงเฉพาะภายในงานเท่านั้น หากเป็นแคมเปญที่แต่ละบริษัท จัดพร้อมกันทั่วประเทศ จองที่ไหนก็แคมเปญเดียวกัน ยอดจองจึงกระจายไปทั่วประเทศ ผู้เข้าชมงานบางครั้งก็ต้องการเดินดูรถ เพราะสามารถดูได้ครบทุกยี่ห้อก่อนจะกลับไปตัดสินใจซื้อหรือจองแถวบ้านหรือที่ตัวเองสะดวก แต่แนวโน้มก็ไม่น่าจะลดลงจากปีที่ผ่านมา”
ในส่วนของการสนับสนุนจากสถาบันการเงิน ดร.ปราจิน เปิดเผยว่า “เรามีสถาบันการเงินกรุงศรี ออโต้ ผู้นำตลาดสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ให้บริการสินเชื่อภายในงาน พร้อมมอบดอกเบี้ยพิเศษ และเงื่อนไขที่จะทำให้สามารถเป็นเจ้าของรถคันใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น”
“สำหรับบัตรเข้าชมงานยังคงราคา 100 บาท พร้อมแคมเปญ ซื้อบัตรเข้าชมงาน ลุ้นรับรถ ที่จัดเตรียมมอบให้เป็นประจำทุกปี ซึ่งประกอบด้วยรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ มูลค่ากว่า 2,500,000 บาท โดยผู้ที่ซื้อบัตรและต้องการร่วมชิงโชคสามารถกรอกแบบสอบถามที่หน้างาน หรือผ่านทางแอพพลิเคชัน Bangkok International Motor Show”
นอกจากนี้ดร.ปราจิน ยังกล่าวถึงความสนใจจากกลุ่มผู้จัดงานในระดับอาเซียน “โดยที่ผ่านมากลุ่มผู้จัดงานในประเทศเพื่อนบ้าน และตัวแทนจำหน่ายแบรนด์รถยนต์ต่างๆ ทั่วโลกได้ติดต่อผ่านแบรนด์รถยนต์ภายในประเทศ เพื่อเข้ามาศึกษาดูงานเป็นประจำทุกปี ปีนี้ก็ไม่น่าจะน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ที่สำคัญยังมีการพูดคุย ปรึกษาในเรื่องรูปแบบของการจัดงานแสดงรถยนต์ให้เป็นไปอย่างมืออาชีพ และมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเข้ามาลงทุนทางธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์อีกด้วย แสดงให้เห็นถึงความเป็นเบอร์หนึ่งในการจัดงานแสดงรถยนต์ระดับอาเซียน และมาตรฐานความเป็นสากลอย่างแท้จริง”
ที่น่าสนใจวันนี้ ดร.ปราจิน ก้าวผ่านจากประเทศไทยสู่ประเทศเพื่อนบ้าน อยากรู้คืออะไร? ไปฟังคำตอบ “เราได้รับความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ ล่าสุดได้ร่วมกับทางสภาอุตสาหกรรมแห่งเมียนมาร์ จัดงานแสดงรถยนต์ในประเทศเมียนมาร์ 2 ครั้งในปีนี้ โดยจะจัดในช่วงเดือนกรกฎาคม และธันวาคม ทางนี้กำลังรอการสร้างศูนย์แสดงสินค้าแห่งใหม่ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปีนี้ รวมถึงอาจร่วมมือกับกัมพูชา ลาว หรือเวียดนาม ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเจรจากันอยู่”
ดร.ปราจิน ทิ้งท้ายถึงการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 ภายใต้ธีม “Revolution in Motion-ปฏิวัติทุกการเคลื่อนไหว” ด้วยความเชื่อมั่นว่านี่คืองานมอเตอร์โชว์ระดับโลกที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของคนไทยที่สามารถจัดงานจนได้รับการยอมรับอย่างสมศักดิ์ศรีประเทศไทย “อยากเรียนเชิญคนไทยทุกคนเข้าชมงานมอเตอร์โชว์ ที่ถือเป็นหน้าตาของประเทศไทย ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ถือเป็นอีกงานที่จัดโดยคนไทย ภายใต้การร่วมมือจากทุกบริษัทรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม – 8 เมษายนนี้ รวม 12 วัน ตั้งแต่เวลา 12.00 – 22.00 น. สำหรับวันธรรมดา และ 11.00 – 22.00 น.สำหรับวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์”
เรื่อง: หนังสือพิมพ์ยวดยาน
ขอบคุณข้อมูล: หนังสือพิมพ์ยวดยาน
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th