บีเอ็มดับเบิลยู ร่วม “ปฏิวัติทุกการเคลื่อนไหว” ยกทัพนวัตกรรมยานยนต์-เทคโนโลยีล้ำยุคสู่เวทีบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ระดับพรีเมียม ด้วยการยกทัพรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์จากบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม-8 เมษายน 2561 ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี นำขบวนโดยบีเอ็มดับเบิลยู X2 กับดีไซน์สปอร์ตทรงพลัง และปราดเปรียวตามสไตล์รถยนต์ในตระกูล X การผสมผสานสมรรถนะเต็มพิกัดเข้ากับความสง่างามเหนือระดับ ในบีเอ็มดับเบิลยู M4 CS และบีเอ็มดับเบิลยู M5 โฉมใหม่ พร้อมด้วยบีเอ็มดับเบิลยู 530i Touring M Sport ที่มอบทั้งความสะดวกสบายและสไตล์การขับขี่แบบสปอร์ตโฉบเฉี่ยว
ในส่วนของมินิ ก็เตรียมต้อนรับแฟน ๆ ด้วยรถยนต์ตัวแรงในตระกูล จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสนามแข่ง พร้อมด้วยพรีวิวมินิรุ่นพิเศษที่จะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้อย่าง มินิ คลับแมน Yours Edition และสำหรับด้านนวัตกรรม ทั้งผู้ชื่นชอบรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์จะได้สัมผัสกับประสบการณ์การเชื่อมต่ออัจฉริยะแบบครบวงจร ระหว่างผู้ขับขี่ ยานยนต์ และโลกภายนอกเป็นครั้งแรก ด้วยเทคโนโลยี ConnectedDrive และ ConnectedRide
คริสเตียน วิดมานน์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่สำคัญสำหรับเรา ในการตอกย้ำวิสัยทัศน์ของบีเอ็มดับเบิลยูอย่างต่อเนื่อง ในการขับเคลื่อนไปสู่อนาคตของยานยนต์ สำหรับงานในปีนี้ซึ่ง จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘ปฏิวัติทุกการเคลื่อนไหว’ หรือ ‘Revolution in Motion’ ไม่เพียงสื่อถึงความมุ่งมั่นของอุตสาหกรรมยานยนต์ในการสร้างสรรค์ และพัฒนานวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นว่านวัตกรรมอันล้ำสมัยเหล่านี้อยู่ในยานยนต์ต่าง ๆ ที่โลดแล่นบนท้องถนนทั่วไทยแล้ว ความหลากหลายของรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ ๆ รวมถึงเทคโนโลยี ConnectedDrive ที่เราเปิดตัวในงานนี้ ตอกย้ำความทุ่มเทของเราในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบผจญภัย ผู้บริหารที่นิยมความหรูหรา และสะดวกสบาย รวมถึงผู้ที่รักการขับขี่ในทุกรูปแบบ”
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคว้ารางวัล “Car & Bike of the Year 2018” มาครองถึง 16 รางวัล ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 นี้ ทั้งสำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดหลากหลายรุ่น
“ความสำเร็จของเราสำหรับรางวัล “Car & Bike of the Year 2018” นี้ เป็นการยืนยันถึงความเป็นผู้นำของเราในด้านการออกแบบและเทคโนโลยีการขับขี่ที่เหนือชั้นและเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความหลากหลายของยนตรกรรมรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในปี 2561 นี้ จะสานต่อกระแสตอบรับในทางบวกจากลูกค้าในไทยที่มีให้แก่เราตลอดหลายปีที่ผ่านมา” วิดมานน์ กล่าวเสริม
ไฮไลท์รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2018
บีเอ็มดับเบิลยู X2 sDrive20i M Sport X ราคาจำหน่าย: 2,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู X2 สมาชิกใหม่ล่าสุดในตระกูล X ของบีเอ็มดับเบิลยู ฉีกภาพลักษณ์แบบเดิม ๆ ด้วยดีไซน์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสปอร์ตทรงพลังตั้งแต่แรกเห็น โดดเด่นสะดุดทุกสายตา คล่องตัว ปราดเปรียวในทุกเส้นทาง
จากบีเอ็มดับเบิลยู X4 และบีเอ็มดับเบิลยู X6 มาสู่บีเอ็มดับเบิลยู X2 ที่มาพร้อมรูปทรงโฉบเฉี่ยว และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ผสานรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ตคูเป้เข้ากับความแข็งแกร่งทรงพลังในแบบฉบับบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล X โดยเป็นครั้งแรกที่กระจังหน้าไตคู่อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู มีรูปทรงส่วนฐานด้านล่างกว้างกว่าด้านบน สร้างมิติให้รถดูกว้างและโฉบเฉี่ยวมากขึ้น ตอกย้ำความสปอร์ตด้วยช่องดักอากาศลวดลายหกเหลี่ยม
นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู X2 ยังเป็นรุ่นแรกในตระกูล X ที่มีตราของบีเอ็มดับเบิลยูประดับอยู่บนเสา C-pillar ทั้งสองข้าง ในดีไซน์ที่คล้ายคลึงกับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูระดับตำนานอย่างบีเอ็มดับเบิลยู 2000 CS และบีเอ็มดับเบิลยู 3.0 CSL
บีเอ็มดับเบิลยู X2 มาพร้อมชุดแต่งรอบคัน M Sport X สร้างความสะดุดตาด้วยสเกิร์ตและซุ้มล้อสี Frozen Grey ตัดกับสีตัวถังอย่างลงตัว สร้างมิติความกว้าง และย้ำถึงเอกลักษณ์ความแข็งแกร่ง ท่อไอเสียแบบคู่ยังสื่อถึงความทรงพลังของเครื่องยนต์ ในขณะที่ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาลาย Y-spoke ในสไตล์ M ขนาด 19 นิ้ว สะกดทุกสายตาด้วยเฟรมรอบซุ้มล้อรูปทรงเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ในสี Frozen Grey เช่นกัน
บีเอ็มดับเบิลยู X2 sDrive20i M Sport X ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 192 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 280 นิวตัวเมตร ที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที เมื่อจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ Steptronic คลัตช์คู่ 7 จังหวะ มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 7.7 วินาที ที่ความเร็วสูงสุด 227 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โหมดการขับขี่รูปแบบต่าง ๆ สามารถปรับเปลี่ยนได้ผ่านปุ่ม Driving Experience Control โดยเลือกได้ระหว่างโหมด COMFORT สำหรับการขับขี่แบบปกติ โหมด ECO PRO ประหยัดพลังงาน หรือโหมด SPORT เพื่อการตอบสนองที่ฉับไวและการเข้าโค้งอย่างเฉียบคม
อีกหนึ่งไฮไลท์อันโดดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู X2 คือหลังคากระจกแบบ Panorama สองส่วน ส่วนหน้าสามารถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า สร้างความรู้สึกโล่งโปร่งสะดวกสบายด้วยแสงสว่างที่เพียงพอภายในรถ พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานอื่น ๆ รวมถึงหน้าจอ Control Display ขนาด 8.8 นิ้ว ปุ่มควบคุม iDrive พร้อมระบบสัมผัส ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่ที่กระจกหน้าฝั่งคนขับ (BMW Head-Up Display) วิทยุพร้อม
บีเอ็มดับเบิลยู 530i Touring M Sport ใหม่ ราคาจำหน่าย: 4,539,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 530i Touring M Sport ใหม่ เป็นรถยนต์หรูที่มอบประโยชน์ใช้สอยแบบรอบด้านด้วยพื้นที่มากมายภายในห้องโดยสาร พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบการเชื่อมต่อล้ำสมัย ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2 ลิตร เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร กำลังสูงสุด 185 กิโลวิตต์/252 แรงม้า และสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลา 6.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุดถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่ ราคาจำหน่าย: 11,399,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่ เป็นรถยนต์รุ่นพิเศษในตระกูล M ที่ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัด พร้อมสานต่อตำนานแห่งสมรรถนะของบีเอ็มดับเบิลยู M ด้วยสไตล์การขับขี่สุดสปอร์ตและประสิทธิภาพที่เหนือระดับ แต่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบายสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง 6 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร ด้วยเทคโนโลยี BMW M TwinPower Turbo พัฒนาสมรรถนะการส่งกำลังสูงสุด 460 แรงม้า ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 3.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ M แบบคลัตช์คู่ 7 จังหวะ พร้อมระบบ Drivelogic เพื่อการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วภายในเสี้ยววินาที ด้วยแป้นเปลี่ยนเกียร์ paddle shift บนพวงมาลัยเพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ดีที่สุดในทุกสภาวะ
บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่ มาพร้อมระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ที่สามารถทำงานในโหมดพิเศษ M Dynamic (MDM) เพื่อความเพลิดเพลินสูงสุดในการขับขี่ และระบบเฟืองท้าย Active M ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ 3 โหมดด้วยกัน (Comfort, Sport and Sport+) เพียงแค่สัมผัสปุ่ม เพื่อปรับให้ตัวรถตอบสนองต่อทุกการควบคุมในแบบที่ต้องการ สอดรับกับลักษณะของเส้นทางอย่างลงตัว
บีเอ็มดับเบิลยู M5 ใหม่ ราคาจำหน่าย: 13,339,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
ครั้งแรกของบีเอ็มดับเบิลยู M5 ที่มาพร้อมกับ M xDrive ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่สร้างมาตรฐานใหม่ด้านสมรรถนะให้กับตลาดรถซีดานประสิทธิภาพสูง โดยบีเอ็มดับเบิลยู M5 เจนเนอเรชั่นที่ 6 นี้ มอบประสิทธิภาพความคล่องตัวสูงสุดด้วยการเน้นส่งกำลังขับเคลื่อนจากล้อหลัง ควบคู่กับการเพิ่มกำลังส่งจากล้อหน้าในกรณีที่พละกำลังขับเคลื่อนจากล้อหลังไม่เพียงพอ และต้องการแรงฉุดลากที่เพิ่มขึ้น ในสภาวะการขับขี่ด้วยความเร็วสูง ระบบขับเคลื่อน M xDrive ก็ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมขุมพลังบีเอ็มดับเบิลยู M5 ใหม่นี้ ได้อย่างแม่นยำ และง่ายดายยิ่งขึ้น
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ความสปอร์ตอันโดดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู M5 ใหม่นี้ คือปุ่ม M1 และ M2 สีแดงสองปุ่ม ซึ่งอยู่ติดกับระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนการตั้งค่าระบบต่าง ๆ ตามที่ต้องการได้ถึง 2 แบบเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าระบบ M xDrive ระบบควบคุมเสถียรภาพแบบไดนามิก (DSC) ระบบเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ระบบระบายอากาศ ระบบการควบคุมพวงมาลัยไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งการตั้งค่ารูปแบบของการแสดงผลบน Head-Up Display
บีเอ็มดับเบิลยู M5 ใหม่ ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ M TwinPower Turbo แบบ V8 ความจุ 4.4 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 441 กิโลวัตต์ / 600 แรงม้า ที่ 5,600 – 6,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 5,600 รอบต่อนาที มาคู่กับเกียร์อัตโนมัติ M Steptronic 8 จังหวะ พร้อมระบบ Drivelogic สามารถเร่งความเร็วจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.4 วินาที และ 0 – 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 11.1 วินาที โลดแล่นด้วยความเร็วสูงสุดที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิคส์ไว้ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่ ราคาจำหน่าย: 3,799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
หลังจากที่ได้เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู X3 ใหม่ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แฟน ๆ ชาวไทยจะได้สัมผัสประสบการณ์สปอร์ตยิ่งขึ้นของบีเอ็มดับเบิลยู X3 เจนเนอเรชั่นที่ 3 กับบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่ ที่ยังคงเอกลักษณ์ความแข็งแกร่งบนท้องถนนและลุคสปอร์ตปราดเปรียวไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยรุ่น M Sport นี้มาพร้อมกับล้ออัลลอย M ลาย Double-spoke ขนาด 19 นิ้ว เสริมความสะดุดตาด้วยชุดตกแต่งรอบคันดีไซน์ M Aerodynamics และขอบหน้าต่างสีดำเงา ภายในรถตกแต่งด้วย Aluminium Rhombicle Trim Finishers ตัดกับ Pearl Chrome พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแบบ M Sport พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ และยังเสริมความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วยระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ และกล้องมองหลัง เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยและแม่นยำในทุกเส้นทาง
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่ยังมาพร้อมช่วงล่าง M Sport ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลทรงพลัง 4 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Steptronic ให้กำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์ / 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ส่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลา 8 วินาที ที่ความเร็วสูงสุด 213 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลือง น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 17.6 กิโลเมตรต่อลิตร และระดับการปล่อย CO2 เฉลี่ยที่ 150 กรัมต่อกิโลเมตร
บีเอ็มดับเบิลยู 118i M Sport (M Performance Edition) ราคาจำหน่าย: 2,099,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 118i M Sport รถยนต์ 5 ประตูที่กลับมาพร้อมความเร้าใจมากยิ่งขึ้นในรุ่น M Performance Edition เพิ่มลุคสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ของเวอร์ชั่น M Sport พร้อมเสริมชุดแต่งรอบคันดีไซน์ M และขอบหน้าต่างสีดำเงา รวมทั้งอุปกรณ์มาตรฐานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ล้ออัลลอย M ขนาด 18 นิ้วลาย Double-spoke สีดำ Jet Black และระบบไฟส่องสว่างเมื่อปลดล็อก
บีเอ็มดับเบิลยู 118i M Sport (M Performance Edition) ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ที่กำลังสูงสุด 136 แรงม้า สามารถเร่งความเร็งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 8.7 วินาที ด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 20.0 กิโลเมตรต่อลิตร และระดับการปล่อย CO2 เฉลี่ย 118 กรัมต่อกิโลเมตร ช่วงล่างแบบ M Sport ยังช่วยเสริมสมรรถนะการขับขี่ที่ปราดเปรียวยิ่งขึ้นตามแบบฉบับของ M Performance
BMW ConnectedDrive: เชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด เพื่ออิสระในการใช้ชีวิต
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย พร้อมมอบประสบการณ์การเชื่อมต่ออัจฉริยะแบบครบวงจร ระหว่างผู้ขับ ยานยนต์ และโลกภายนอก แก่ผู้ขับขี่ชาวไทยเป็นครั้งแรก ด้วย BMW ConnectedDrive บริการและแอพพลิเคชั่นเฉพาะบุคคล ให้ผู้ขับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูได้เพลิดเพลินกับฟีเจอร์ผู้ช่วยในการขับขี่ ข้อมูลและความบันเทิง รวมถึงการสัญจร เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยระดับพรีเมียม ในทุกวินาทีที่อยู่ด้านหลังพวงมาลัย ผ่านแพลตฟอร์ม Open Mobility Cloud ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ดิจิตอลเข้ากับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูได้แบบไร้สาย ไม่ว่าจะด้วย iPhone หรือ Apple Watch
รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นใหม่ เฉพาะบางรุ่นที่นำเข้าตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 เป็นต้นไป* จะมาพร้อมซิมการ์ดที่ติดตั้งไว้ในตัวรถ สำหรับใช้งานฟีเจอร์พื้นฐานของ BMW ConnectedDrive ซึ่งได้แก่ BMW Teleservices บริการที่ช่วยจัดการนัดหมายอัตโนมัติผ่านการแชร์ข้อมูลของรถยนต์กับศูนย์บริการบีเอ็มดับเบิลยูที่คุณต้องการ หรือผู้ขับขี่สามารถทำการติดต่อผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยูด้วยตนเองผ่าน BMW Teleservice Call เพื่อนัดหมายการรับบริการล่วงหน้า พร้อมด้วย BMW Teleservice Battery Guard บริการที่คอยตรวจสอบระดับแบตเตอรี่และแจ้งเตือนผู้ขับขี่
หากระดับพลังงานในแบตเตอรี่ลดลงต่ำกว่าระดับมาตรฐาน และอีกหนึ่งบริการพื้นฐานของ BMW ConnectedDrive คือ Intelligent Emergency Call ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ติดต่อกับศูนย์บริการฉุกเฉินของบีเอ็มดับเบิลยูทางโทรศัพท์เพียงแค่กดปุ่ม หรือในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ระบบเซ็นเซอร์การชนจะส่งสัญญาณแจ้งตำแหน่งพิกัดรถโดยอัตโนมัติไปยังศูนย์บริการ เพื่อการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านทางจอ Control Display
มินิ ประเทศไทย นำเสนอรถยนต์รุ่นพิเศษ มินิ คลับแมน Yours Edition ที่เตรียมเปิดตัวให้เห็นอย่างเต็มรูปแบบผ่านช่องทางดิจิทัล ลูกค้าที่สนใจสามารถเลือกเป็นเจ้าของมินิรุ่นพิเศษคันนี้ได้ด้วย วิธีสั่งจองแบบไม่ธรรมดา ที่มินิจะเปิดเผยอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่ ราคาจำหน่าย: 3,548,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่ รถยนต์เอนกประสงค์ พรีเมียม คอมแพ็ค ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบสปอร์ตได้อย่างสมบูรณ์แบบ สะท้อนจิตวิญญาณรถแข่งโกคาร์ทอันเป็นเอกลักษณ์ของมินิ ด้วยเครื่องยนต์ทรงพลัง ระบบช่วงล่าง และชุดแอโรไดนามิกส์ ในแบบฉบับจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อหรือ ALL4 และขุมพลังจากเทคโนโลยี มินิ Twin Power Turbo มอบความเร็วเร้าใจด้วยกำลังสูงสุด 170 กิโลวัตต์ / 231 แรงม้า สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 6.5 วินาที ในความเร็วสูงสุด 234 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,450 – 4,500 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 14.2 กิโลเมตรต่อลิตร ระดับการปล่อย CO2 อยู่ที่ 161 กรัมต่อกิโลเมตร ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบสปอร์ตพร้อมแป้น paddle shift บนพวงมาลัย มอบสมรรถนะรวดเร็วทันใจ ขับขี่ได้คล่องตัวทุกความท้าทายในทุกสภาพท้องถนน
ดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นของมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่ บ่งบอกถึงสมรรถนะความสปอร์ตและความปราดเปรียว ล้ออัลลอยแบบ John Cooper Works Course Spoke ขนาด 19 นิ้ว และเอกลักษณ์จานเบรคสีแดง พร้อมด้วยโลโก้จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ และชุดแอโรไดนามิกส์ มอบความรู้สึกทรงพลังแก่รถยนต์มินิเจเนอเรชั่นใหม่นี้
ภายในมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่ ยังพกพาชุดแต่งในตระกูลจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ขนานแท้ที่ทำให้การขับขี่ในวันธรรมดาเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจราวกับอยู่ในสนามแข่ง ด้วยที่นั่งแบบยกสูงและดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากรถแข่ง ทั้งพวงมาลัยหนังแท้และเบาะสปอร์ตสไตล์จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวลแม้ระหว่างขับขี่ด้วยความเร็วสูง ระบบแสดงผล Head-Up Display อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่โดยแสดงผลข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่รบกวนการมองถนน เสริมสมรรถนะการขับขี่ในระดับรถแข่งพันธุ์แท้ ด้วยความคลาสสิกสไตล์มินิอย่างแท้จริง
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คลับแมน ราคาจำหน่าย: 3,548,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คลับแมน สมรรถนะแบบสปอร์ตจากมินิ กับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อหรือ ALL4 เจเนอเรชั่นล่าสุด ขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ทำงานด้วยเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 170 กิโลวัตต์ / 231 แรงม้า โดยมีแรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 6.3 วินาที รวมถึงเกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport 8 สปีด ให้คุณขับขี่ได้คล่องตัว ตอบสนองฉับไวทุกโจทย์การขับขี่ พร้อมท้าทายบนท้องถนน ขุมพลังใหม่ของมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ถือเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดที่มินิเคยออกมาสู่ตลาด
นอกจากนี้ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คลับแมน ยังมีเอกลักษณ์รูปแบบเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็น ชุดแต่งแอโรไดนามิกส์ ล้ออัลลอยแบบ John Cooper Works Course Spoke two-tone ขนาด 19 นิ้ว พร้อมดีไซน์และแต่งในสไตล์ John Cooper Works ทั้งภายนอกภายใน พวงมาลัยหนังแท้พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น รวมถึงเบาะสปอร์ตพิเศษ John Cooper Works ระบบแสดงผล Head-Up Display และจอขนาด 8.8 นิ้วที่อยู่บริเวณกลางแผงคอนโซลรถมาพร้อมระบบสัมผัส (ทัชสกรีน) ใหม่ล่าสุด
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ ราคาจำหน่าย: 3,410,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)
สัมผัสสมรรถนะเร้าใจในสไตล์รถแข่งโกคาร์ทแบบฉบับของมินิ กับมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ ที่สืบทอดประสิทธิภาพจากสนามแข่งของจอห์น คูเปอร์มาได้อย่างสมบูรณ์แบบ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ 3 ประตู ยังคงขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซินขนาด 2.0 ลิตร ส่งพละกำลังสูงสุดที่ 170 กิโลวัตต์ / 231 แรงม้า จากเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport 8 สปีด ส่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรภายใน 6.1 วินาที
ความสปอร์ตของมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ ยังโดดเด่นด้วยล้ออัลลอยแบบ John Cooper Works Cup Spoke two-tone ขนาด 18 นิ้ว ตัดกับจานเบรกสีแดง เสริมลุคด้วยท่อไอเสียจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แบบคู่ที่อยู่กึ่งกลางของท้ายรถ พร้อมให้ความรู้สึกเร้าใจด้วยเบาะหนังหรือผ้า Dinamica สีดำตัดกับแดง
ข้อเสนอพิเศษในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39
ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูที่จองรถยนต์ภายในงานและรับส่งมอบรถยนต์ภายในวันที่ 30 เมษายน 2561 จะได้รับสิทธิประโยชน์ ดังนี้
- ซื้อรถทุกรุ่น (ยกเว้นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด) จะได้รับบัตรของขวัญเติมน้ำมัน
มูลค่า 70,000 บาท สำหรับรถยนต์ซีรี่ส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู i และ บีเอ็มดับเบิลยู M
มูลค่า 50,000 บาท สำหรับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ยกเว้นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด
- สำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด จะได้รับการยกระดับโปรแกรมการรับประกันจาก BSI Standard เป็น BSI Ultimate พร้อมด้วยระยะเวลาบำรุงรักษา 5 ปี / 100,000 กิโลเมตร และโปรแกรมการรับประกันระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
สำหรับลูกค้ามินิที่ทำการจองรถยนต์ภายในงาน และรับส่งมอบรถยนต์ภายในเดือนเมษายน 2561 จะได้รับสิทธิประโยชน์ ดังนี้
- การยกระดับ MSI (MINI Service Inclusive) จาก 3 ปี หรือ 60,000 ก.ม. เป็น 5 ปี หรือ 100,000 ก.ม. (ยกเว้นมินิ คันทรีแมน)
- บริการ MINI FREEDOM CHOICE ในราคาเริ่มต้นเพียง 36,600 บาท/เดือน สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์มินิ คลับแมน คูเปอร์ เอส ให้สิทธิประโยชน์ด้วยการรับประกันมูลค่ารถยนต์มินิในอนาคตตั้งแต่วันแรกของระยะเวลาสัญญา พร้อมเปิดทางเลือกที่ยืดหยุ่นในการจัดการกับรถยนต์มินิเมื่อสิ้นสุดสัญญา
- สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ผ่านทาง มินิ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส รับฟรีร่ม MINI