สิ้นสุดการรอคอย ‘นิสสัน จีที-อาร์’ พรีเมียม อิดิชั่น เปิดราคา 13.5 ล้านบาท
นิสสัน ย้ำความมุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรม และความตื่นเต้นเร้าใจสู่ประเทศไทย ด้วยการเปิดตัวซูเปอร์คาร์ระดับตำนาน นิสสัน จีที-อาร์ พรีเมียม อิดิชั่น 2018 ในราคา 13.5 ล้านบาท พร้อมรับประกัน 3 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 ที่ชาแลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี โดยรอบบุคคลทั่วไปจะเริ่มต้นระหว่างวันที่ 28 มีนาคม-8 เมษายนนี้
“ผมมีความตื่นเต้นที่ได้นำเสนอรถซูเปอร์สปอร์ตที่มีความทันสมัย ประณีต และก้าวหน้าที่สุดเท่าที่นิสสัน เคยผลิตมาสู่ประเทศไทย” อันตวน บาร์เตส ประธานนิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวกับสื่อมวลชนระหว่างเปิดตัว “นิสสันสามารถมอบนวัตกรรม และความตื่นเต้นเร้าใจเพื่อทุกคนอีกครั้ง เรานำลูกค้ามาเป็นหัวใจสำคัญในทุกๆ อย่างที่เราทำซึ่งเป็นเหตุผลที่นิสสัน เริ่มพัฒนารถซูเปอร์คาร์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ เราได้ยินเสียงเรียกร้องที่ดังกระหึ่ม และชัดเจนจากแฟนของนิสสันในประเทศไทยที่ต้องการรถระดับตำนานอย่างจีที-อาร์”
สำหรับศูนย์บริการมีการแต่งตั้งสยาม นิสสัน ทีเคเอฟ ให้เป็นศูนย์บริการรถสมรรถนะสูงของนิสสันแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย หรือนิสสัน ไฮเพอร์ฟอร์มแมนซ์ เซ็นเตอร์ (Nissan High Performance Center) เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างดีที่สุด จีที-อาร์ ผลิตที่โรงงานระดับโลกของนิสสันในเมืองโทชิกิ ประเทศญี่ปุ่น
คุณปนิษฐ์ ศุภธาดารัตน์ กรรมการผู้จัดการสยาม นิสสัน ทีเคเอฟ กล่าวถึงความรู้สึกว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นศูนย์บริการรถสมรรถนะสูงของนิสสัน แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ทีเคเอฟ มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจสำหรับรถยนต์ซูเปอร์คาร์มานานกว่า 12 ปี หลังจากได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ทีเคเอฟ ได้ลงทุนเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงโครงสร้างศูนย์บริการใหม่ ให้ครอบคลุมทั้งพื้นที่ส่วนขาย และการบริการเพื่อรองรับการให้บริการสำหรับนิสสัน จีที-อาร์ โดยเฉพาะ โดยมีเอ็กคลูซีฟทีม อาทิ พนักงาน ฝ่ายขาย และช่างเทคนิคที่ผ่านการฝึกอบรมพิเศษพร้อมสำหรับดูแลลูกค้าจีที-อาร์ และรถอันทรงคุณค่าของพวกเขาโดยเฉพาะ”
จีที-อาร์ ถูกยกให้เป็นซูเปอร์สปอร์คาร์ระดับตำนานของนิสสันที่ได้รับการพัฒนา และปรับแต่งระบบวิศวกรรมจากประสบการณ์กว่า 35 ปี ของนิสสัน ในการพัฒนารถแข่งในวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก จนกลายเป็นหนึ่งในรถโปรดักชั่นที่เร็วที่สุดในโลก ตัวถังแบบแกรนด์ทัวริ่ง 2+2 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ วี6 ขนาด 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ประกอบด้วยมือ ให้พละกำลังสูงสุด 555 แรงม้า ผ่านระบบเกียร์ซีเควนเชียลดูอัลคลัตช์ 6 สปีดที่ สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ภายในเวลาชั่วพริบตา เพียง 0.15 วินาทีเมื่ออยู่ในโหมด R-Mode ถ่ายกำลังลงพื้นด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
คุณสมบัติสำคัญของนิสสัน จีที-อาร์ พรีเมียม อิดิชั่น 2018
- ล้อฟอร์จอัลลอยจากเรยส์ (Rays®) น้ำหนักเบาพิเศษ ซูเปอร์ไลต์เวต ขนาด 20 นิ้ว
- กระจังหน้า V-motion รุ่นใหม่ยกระดับแอโรไดนามิก
- ฝากระโปรงใหม่เพิ่มประสิทธิภาพแอโรไดนามิก
- แผงดิฟฟิวเซอร์ด้านหน้าคาร์บอน เอสเอ็มซี (Carbon SMC) และแผงดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังคาร์บอนคอมโพสิทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแอโรไดนามิก
- ดีไซน์ด้านหลังใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนอากาศ
- แผงแดชบอร์ดดีไซน์ใหม่พร้อมแผงมาตรวัดหุ้มหนังตัดเย็บด้วยมือ
- แผงควบคุม Display Command ใหม่บนคอนโซลกลางแบบคาร์บอนไฟเบอร์
- พวงมาลัยรุ่นใหม่พร้อมแป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ที่ใช้งานได้สะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น
- หน้าจอกลางทัชสกรีนมัลติฟังก์ชั่นขนาด 8.0 นิ้ว
ขณะที่ ฮิโรชิ ทามูระ ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายผลิตภัณฑ์จีที-อาร์ของนิสสัน กล่าวว่า “จีที-อาร์ มอบประสบการณ์ขับขี่ที่ทำให้หัวใจของใครก็ตามที่เข้าไปนั่งหลังพวงมาลัยเต้นแรงได้เสมอในทุกการเดินทาง เราผลักดันการพัฒนาสมรรถนะของรถรุ่นนี้จนถึงขีดสุด และจีที-อาร์รุ่นนี้มีพละกำลังมากกว่าที่ผ่านมา ขณะเดียวกันยังมีความประณีตมากขึ้นเพื่อยกระดับประสบการณ์ขับขี่ทั้งหมดให้สูงขึ้นเป็นมาตรฐานใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เรามีความภาคภูมิใจที่ได้นำเสนอที่สุดแห่งรถสปอร์ต จีที (แกรนด์ทัวริ่ง) ให้แก่ลูกค้า จีที-อาร์ เพียบพร้อมทั้งสมรรถนะน่าอัศจรรย์ใจ ความสะดวกสบายที่เหนือชั้น และตำนานแห่งความสำเร็จจากสนามแข่งอันยาวนาน”
สำหรับนิสสัน จีที-อาร์ พรีเมียม อิดิชั่น 2018 ที่จำหน่ายในประเทศไทย ภายในห้องโดยสารจะมีให้เลือก 4 โทนสี Black Amber, Ivory, Saddle Tan และ Red Amber กับ 6 สีตัวถังภายนอกได้แก่ Katsura Orange, Vibrant Red, Pearl Black, Gun Metallic, Pearl White และ Pearl Blue